SUV |
มาดูกันว่ารถยนต์แบบไหนเข้าข่ายที่เรียกว่า SUV (Sport Utility Vehicles) รถยนต์ประเภท SUV หมายถึงยานพาหนะที่สามารถใช้งานได้ดี ทั้งบนท้องถนน หรือ ออนโรด และเส้นทางทุรกันดาร หรือ ออฟโรด โดยมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 8,500 ปอนด์หรือประมาณ 3,870 กิโลกรัม
เกือบทั้งหมดของรถประะภทนี้ จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งมาด้วย จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าผ่านเส้นทางที่เป็นอุปสรรคไปได้ ไม่ว่าจะเป็น โคลน หิมะ หรือทางลาดชัน หรือที่ต้องการการยึดเกาะของล้อทั้ง 4 มากกว่าปกติ ตัวรถต้องเพิ่มความสูงใต้ท้องที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไป รวมถึงในบางรุ่นยังมีฐานล้อและช่วงล้อที่สั้นกว่าด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความสะดวกในการขับผ่านเส้นทางอุปสรรค ที่ขรุขระ หากมีฐานล้อยาวแบบรถเก๋งอาจจะท้องลายได้เวลาปีนป่ายก้อนหินใหญ่
ด้วยเหตุที่รถ SUV มีความสูงมากกว่า จุดศูนย์ถ่วงจึงสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้มีผลกับการตอบสนองการขับขี่ที่ต่างกับรถเก๋งที่เราคุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าโค้ง รถ SUV นั้นแบกน้ำหนักตัวไว้เยอะมาก บวกกับรูปร่างที่สูงใหญ่ จึงไม่สามารถที่จะเลี้ยวหรือเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูง เหมือนกับรถเก๋งได้
เนื่องจากรถ SUV มีอัตราเสี่ยงต่อการพลิกคว่ำได้มากกว่ารถเก๋งถึง 2-3 เท่า และสาเหตุของการพลิกคว่ำที่ผ่านๆ มานั้น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการขับขี่ที่อันตรายของตัวผู้ขับเอง ไม่ว่าจะเป็นการคาดเข็มขัดนิรภัยไม่ถูกต้อง การขับรถด้วยความเร็วสูง และที่สำคัญ...เมาแล้วขับ
โดยผู้ขับส่วนมากมักเข้าใจว่ารถ SUV ก็เหมือนกับรถเก๋งทั่วไป การเลี้ยวมุมแคบหรือหักหลบอย่างรวดเร็ว จึงอาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำหรือหลุดออกนอกเส้นทางได้ง่าย
เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ควรคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่ขับขี่ เพื่อไม่ให้ร่างกายถูกเหวี่ยงจนหลุดออกนอกตัวรถ เพราะในขณะที่รถพลิกคว่ำนั้น จะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงมากมายมหาศาล มีเพียง "เข็มขัดนิรภัย" เท่านั้น ที่จะช่วยชีวิตเราไว้ได้ในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ที่อาจทำให้อันตรายที่สุดของชีวิต
หากยังใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าของรถ SUV ควรศึกษาคู่มือการใช้งาน ที่มักจะมีข้อความติดไว้บริเวณใกล้ที่นั่งคนขับว่า "รถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มีการตอบสนองการขับขี่แตกต่างจากรถเก๋งทั่วไป หากมีการเลี้ยวในมุมแคบอย่างกระทันหัน อาจทำให้เกิดการพลิกคว่ำหรือหลุดออกนอกเส้นทางจนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงควรศึกษารายละเอียดการขับขี่จากหนังสือคู่มือ และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับรถ"
ขอบคุณ www.manager.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น